Back to Schedule
Donate

    บทคัดย่อจากข้อเขียนของปรมหังสา โยคานันทะ

    ความสำเร็จที่แท้จริง

    ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่อาจตัดสินด้วยจำนวนเงินและทรัพย์สินที่เรามี ความสำเร็จมีความหมายมากกว่านั้น มันสามารถวัดได้ด้วยความสงบภายในและการควบคุมจิตใจที่จะทำให้เราเป็นสุขได้ในทุกสถานการณ์เท่านั้น นั่นคือความสำเร็จที่แท้จริง

    flower

    ความลับของความสำเร็จและความสุขอยู่ในตัวท่าน ถ้าท่านพบกับความสำเร็จและความมั่งคั่งแต่ภายนอก ซึ่งไม่ใช่ภายใน นั่นไม่ใช่ความสำเร็จที่แท้จริง เศรษฐีที่ไร้ความสุขไม่ใช่คนประสบความสำเร็จ ข้าพเจ้าไม่ได้หมายความว่า ถ้าท่านมีเงินล้านเหรียญท่านจะไม่สมารถประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าท่านยากจนหรือร่ำรวย ถ้าท่านหาความสุขในชีวิตได้นั่นคือความสำเร็จอันแท้จริง

    ใช้พลังเจตจำนง

    ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เว้นแต่ท่านคิดว่ามันเป็นเช่นนั้น

    flower

    ในฐานะมนุษย์ที่ไม่เป็นอมตะ ท่านมีข้อจำกัด แต่ในฐานะลูกของพระเจ้าท่านไร้ข้อจำกัด...จดจ่อจิตไว้ที่พระเจ้า แล้วท่านจะได้พลังอำนาจตามต้องการ จะใช้ในทิศทางใดก็ได้

    flower

    เจตจำนงเป็นเครื่องมือภาพสะท้อนของพระเจ้าภายในตัวท่าน ในเจตจำนงมีอำนาจอันไร้ขีดจำกัดของพระเจ้า อำนาจที่ควบคุมพลังธรรมชาติทั้งปวง ในเมื่อท่านถูกสร้างตามฉายาของพระองค์ อำนาจนั้นในตัวท่านทำให้เกิดทุกสิ่งได้ตามที่ท่านปรารถนา

    flower

    เมื่อท่านตัดสินใจทำในสิ่งดีๆ ท่านจะสำเร็จได้ถ้าท่านทำตามพลังเจตจำนงจนถึงที่สุด ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ถ้าท่านพยายาม พระเจ้าจะทรงสร้างวิธีที่สนองเจตจำนงของท่าน นี่เป็นความจริงดังที่พระเยซูตรัสว่า “ถ้าเพียงพวกท่านมีความเชื่อ และไม่สงสัย...ท่านทั้งหลายจะสั่งภูเขาลูกนี้ว่า จงลอยขึ้นและเคลื่อนไปลงทะเล ก็จะเป็นไปตามนั้น” ถ้าท่านใช้เจตจำนงอย่างสม่ำเสมอ เรื่องร้ายทั้งหลายจะกลายเป็นความสำเร็จ เป็นสุขภาวะและอำนาจที่จะช่วยเหลือผู้คนได้ เหนืออื่นใด จะทำให้ท่านสื่อสารกับพระเจ้าได้

    flower

    สมองของมนุษย์ปุถุชนเต็มด้วยคำว่า “ไม่ได้” มาเกิดในครอบครัวที่มีลักษณะนิสัยอย่างนี้ ความคิดนี้จะส่งอิทธิพล ทำให้เขาไม่สามารถทำบางสิ่งได้ เดินมากไม่ได้ กินนี่ก็ไม่ได้ ทนนั่นก็ไม่ได้ ต้องเผาคำ “ไม่ได้” นี้ทิ้งไป ท่านมีอำนาจในตัวที่จะทำให้สิ่งที่ต้องการสำเร็จได้ อำนาจนั้นอยู่ที่เจตจำนง

    flower

    ถ้าพลังเจตจำนงของท่านเกาะเกี่ยวอยู่กับความคิดบางอย่าง ผลเป็นรูปธรรมจะเกิดได้ในที่สุด

    flower

    การคิดด้วยพลังเจตจำนงหมายความว่า คิดจนแบบแผนความคิดพัฒนาเป็นพลังเจตจำนง เมื่อคิดด้วยพลังเจตจำนง ผลจะเป็นไปตามพิมพ์เขียวแห่งเจตนาที่ท่านสร้างขึ้น

    flower

    เราจะพัฒนาเจตจำนงได้อย่างไร? เลือกอะไรสักอย่างที่ท่านคิดว่าท่านไม่อาจทำได้สำเร็จ แล้วพยายามทำสิ่งเดียวนั้นอย่างเต็มความสามารถ เมื่อทำได้สำเร็จ ก็ทำสิ่งที่ใหญ่กว่านั้นต่อไป พัฒนาพลังเจตจำนงอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถ้ายากเกินไปก็จงอธิษฐาน: “ข้าแต่พระบิดา โปรดประทานพลังอำนาจให้ลูกข้ามพ้นความยุ่งยากทั้งหลายด้วยเทอญ” ท่านต้องใช้พลังเจตจำนง ไม่ว่าท่านเป็นอะไร หรือเป็นใคร ท่านต้องตัดสินใจ ใช้พลังเจตจำนงนี้ทั้งในธุรกิจและในการปฏิบัติสมาธิ

    flower

    ความสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับจิตของเราเอง ต่อให้ขัดกับความเห็นด้านลบของทั้งสังคม ถ้าเรามุ่งมั่นใช้พลังเจตจำนงเอาชนะได้ทุกสิ่งที่พระเจ้าประทาน เราจะไม่ถูกปล่อยให้ทุกข์อยู่กับความยุ่งยาก เราจะรู้สึกได้ถึงทิพยอำนาจเร้นลับ แล้วเราจะเห็นว่าพลังดึงดูดของอำนาจความมุ่งมั่นเปิดทางใหม่ๆ ให้แก่เรา

    จัดการกับความล้มเหลวอย่างสร้างสรรค์

    ยามล้มเหลวเป็นเวลาดีที่สุดที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์ความสำเร็จ สถานการณ์ที่หนักหน่วงอาจทำให้เราเจ็บปวด แต่เชิดหน้าเข้าไว้ พยายามทำครั้งใหม่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะล้มเหลวกี่ครั้ง สู้เมื่อคิดว่าสู้ไม่ไหวอีกแล้ว หรือเมื่อคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว จนกว่าความพยายามนั้นนำความสำเร็จมาให้

    flower

    เรียนรู้ที่จะใช้จิตวิทยาเพื่อชัยชนะ บางคนแนะนำว่า “อย่าพูดถึงความล้มเหลว” แต่แค่นั้นช่วยอะไรไม่ได้ แรกสุด เราต้องวิเคราะห์ความล้มเหลวและสาเหตุที่ทำให้เป็นอย่างนั้น วิเคราะห์ประโยชน์จากประสบการณ์นั้น แล้วเลิกคิดถึงมันอีกต่อไป ต่อให้ล้มเหลวกี่ครั้ง ผู้ที่จิตใจต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ คือผู้ชนะอันแท้จริง

    flower

    ชีวิตอาจมืดมน อาจยุ่งยาก พลาดโอกาสที่จะได้ทำประโยชน์ แต่อย่าพูดกับตัวเองว่า “จบแล้วฉัน พระเจ้าทอดทิ้งฉันแล้ว” ใครจะช่วยคนเช่นนี้ได้? ครอบครัวอาจทอดทิ้งท่าน โชคลาภเสมือนว่าไม่อยู่กับท่าน พลังธรรมชาติและพลังมนุษย์อาจขัดกับท่าน แต่ด้วยทิพยสรรค์สร้างในตัว ท่านสามารถพิชิตชะตากรรมที่ท่านเคยทำพลั้งพลาดในอดีต และเดินสู่สวนสวรรค์ด้วยชัยชนะได้

    flower

    ไม่ว่าล้มเหลวกี่ครั้ง พยายามต่อไป ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ถ้าท่านไม่เปลี่ยนใจ “โลกอาจถล่ม แต่เราจะทำดีที่สุดอย่างสุดความสามารถ” ท่านใช้พลังเจตจำนง และท่านจะสำเร็จ พลังเจตจำนงนี้ทำให้คนหนึ่งร่ำรวย อีกคนแข็งแรง และอีกคนเป็นนักบุญ

    การจดจ่อจิต—กุญแจสู่ความสำเร็จ

    เบื้องลึกของสาเหตุแห่งความล้มเหลวหลายอย่างในชีวิตเกิดจากขาดการจดจ่อจิต การให้ความสนใจเหมือนคบไฟ ถ้าแสงส่องกว้างไกล จะไม่เห็นสิ่งที่ต้องการอย่างชัดเจน แต่ถ้าส่องตรงไปที่สิ่งนั้นแต่ละครั้ง มันจะทรงพลัง มหาบุรุษคือผู้รู้การจดจ่อจิต เขารวมจิตทั้งหมดไว้ที่สิ่งหนึ่งสิ่งใดในเวลานั้นๆ

    flower

    บุคคลควรรู้ศาสตร์การจดจ่อจิต (มีสอนอยู่ในบทเรียนของเซลฟ์ รีอะไลเซชั่น เฟลโลว์ชิพ) ที่เขาอาจถอนจิตจากสิ่งซึ่งทำให้วอกแวกแล้วนำไปจดจ่ออยู่ตรงสิ่งเดียว ณ ขณะนั้น ด้วยพลังการจดจ่อจิต มนุษย์สามารถใช้อำนาจจิต—ที่ไม่รู้จักกันนัก—ทำให้ความปรารถนาสำเร็จ และปิดประตูไม่ให้ความล้มเหลวย่างเข้ามา

    flower

    เราควรจัดการกับหน้าที่หรือปัญหาใกล้มือด้วยพลังจิตอันจดจ่อที่เข้มข้น และกระทำการให้สมบูรณ์ นี่ควรเป็นปรัชญาชีวิตของเรา

    flower

    ผู้คนส่วนใหญ่ทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ อย่างไม่สนใจจริงจัง ให้ความสนใจเพียงหนึ่งในสิบ พวกเขาจึงไม่มีอำนาจความสำเร็จ ...[ทำ] ทุกสิ่งด้วยพลังความสนใจเต็มเปี่ยม พลังเต็มกำลังนั้นจะมาได้โดยการทำสมาธิ เมื่อท่านใช้พลังจดจ่อจิตของพระเจ้านั้น ท่านสามารถนำไปใช้กับทุกสิ่งและประสบความสำเร็จได้

    ความสร้างสรรค์

    ปรับตัวท่านเข้ากับพลังสร้างสรรค์แห่งบรมวิญญาณ ท่านจะสัมผัสสัมพันธ์กับปัญญาไพศาลที่สามารถนำทางท่านและแก้ปัญหาทั้งปวง อำนาจจากแหล่งพลังพลวัตในตัวท่านจะหลั่งไหลไม่ขาดสาย ท่านจะสามารถทำสิ่งสร้างสรรค์ได้ในทุกกิจกรรม

    flower

    ถามคำถามนี้กับตัวท่านเอง “เราเคยพยายามทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนหรือไม่?” นี่เป็นจุดเริ่มของการริเริ่ม ถ้าท่านไม่คิดไกลถึงขั้นนั้น ท่านก็เหมือนผู้คนนับร้อยนับพันที่คิดผิดๆ ว่าตนไม่มีอำนาจทำสิ่งที่แตกต่างจากที่ทำๆ อยู่ พวกเขาเหมือนคนเดินละเมอ ความคิดนั้นมาจากจิตใต้สำนึกทำให้พวกเขาคิดว่าตนมีพลังเพียงหนึ่งแรงม้า

    flower

    ถ้าท่านดำเนินชีวิตอย่างคนหลับที่เดินละเมอเช่นนี้ ท่านต้องปลุกตนเองด้วยการกล่าวคำย้ำเตือนว่า “ฉันมีคุณลักษณะประเสริฐของมนุษย์—ความคิดริเริ่ม มนุษย์ทุกคนมีประกายอำนาจที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่เคยถูกสร้างมาก่อน แต่ฉันเห็นละว่า ฉันจะถูกจิตสำนึกของปุถุชนที่มีข้อจำกัดซึ่งแทรกซึมอยู่ในโลกนี้ทำให้หลงเชื่อไปด้วย ถ้าฉันปล่อยให้ตัวเองถูกสะกดจิตไปกับสิ่งแวดล้อมเช่นนั้น!”

    flower

    ความริเริ่มคืออะไร คือความสร้างสรรค์ในตัวท่าน ประกายแห่งพระองค์ผู้ทรงสร้าง ที่อาจให้อำนาจท่านสร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดสร้างมาก่อน อำนาจนี้กระตุ้นท่านให้ทำสิ่งต่างๆ ด้วยวิธีใหม่ๆ ความสำเร็จของผู้คิดริเริ่มอาจน่าชมราวดาวตก ด้วยการสร้างสรรค์จากความไม่มีอะไรนั้น เขาได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เสมือนเป็นไปไม่ได้อาจเป็นไปได้ เมื่อบุคคลใช้อำนาจการรังสรรค์แห่งบรมวิญญาณ

    flower

    ผู้สร้างสรรค์ไม่รอโอกาส ไม่โทษสถานการณ์ ไม่โทษชะตากรรม และไม่โทษพระเจ้า เขาคว้าโอกาส หรือ สร้างสรรค์จากคทากายสิทธิ์แห่งเจตจำนงของตน แห่งความพยายามและแสวงหาด้วยการแยกแยะ

    flower

    ก่อนเริ่มงานสำคัญ นั่งนิ่งๆ สงบอารมณ์และความคิด ทำสมาธิล้ำลึก พลังสร้างสรรค์แห่งบรมวิญญาณจะนำทางท่าน

    flower

    เมื่อต้องการสร้างบางสิ่งบางอย่าง อย่าได้ขึ้นอยู่กับทรัพยากรภายนอก จงลงลึกแสวงหาแหล่งต้นธารอันไพศาล ความสำเร็จทางธุรกิจทุกอย่าง สิ่งประดิษฐ์ทั้งหลาย การสั่นสะเทือนของดนตรี ข้อเขียนและข้อคิดที่ให้แรงดลใจถูกบันทึกไว้แล้วในปูมแห่งพระเจ้า

    สร้างความสำเร็จรอบด้าน

    ผู้มีปัญญาที่สุดคือผู้แสวงหาพระเจ้า ผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดคือผู้ที่ได้พบพระเจ้า

    flower

    ครูอาจารย์ผู้ประเสริฐไม่เคยแนะนำให้เราเพิกเฉย ท่านจะสอนให้เรารักษาดุลยภาพ แน่นอน เราต้องทำงาน เพื่ออาหารและเสื้อผ้า แต่ถ้าเราปล่อยให้หน้าที่หนึ่งขัดกับอีกหน้าที่ นั่นไม่ใช่หน้าที่อันแท้จริง นักธุรกิจนับพันๆ คนมัววุ่นอยู่กับการสะสมทรัพย์สมบัติ จนลืมไปว่า พวกเขาได้สร้างโรคหัวใจให้ตนเองพร้อมกันไปด้วย! ถ้าหน้าที่สร้างความมั่งคั่งจนทำให้ลืมหน้าที่ต่อสุขภาพ นั่นไม่ใช่หน้าที่ บุคคลควรพัฒนาวิถีที่กลมกลืน ไม่มีประโยชน์ที่จะสนใจพัฒนาร่างกายให้งามเลิศ ถ้าร่างกายนั้นมีสมองเท่าเม็ดถั่ว จิตก็ต้องพัฒนาด้วยเช่นกัน ถ้าเรามีสุขภาพดี มีทรัพย์และมีสติปัญญา ทว่าไร้ความสุข แสดงว่าชีวิตของเรายังไม่ประสบความสำเร็จที่แท้จริง จนเมื่อเราสามารถพูดได้อย่างจริงใจว่า “ฉันเป็นสุข ไม่มีใครพรากความสุขไปจากฉันได้” เมื่อนั้นเราคือราชา—เราได้พบฉายาของพระเจ้าในตน

    flower

    คุณสมบัติอีกอย่างของความสำเร็จ คือ ไม่เพียงแต่ได้ประโยชน์และความกลมกลืนเฉพาะตัวเราเท่านั้น แต่ต้องแบ่งปันประโยชน์นี้แก่ผู้อื่นด้วย

    flower

    หน้าที่หลักของชีวิตคือการรับใช้ผู้อื่น ถ้าขาดอุดมคตินี้ สติปัญญาที่พระเจ้าประทานแก่เราก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย ในการได้รับใช้ เราจะลืมอัตตาของเรา เราจะได้สัมผัสอาตมันยิ่งใหญ่แห่งบรมวิญญาณ ดั่งเช่นแสงอาทิตย์ให้ชีวิตแก่สรรพสิ่ง เราพึงส่องแสงแห่งความหวังไปถึงหัวใจของคนยากไร้และผู้ที่ถูกทอดทิ้ง จุดความกล้าในหัวใจของคนสิ้นหวัง ให้แสงพลังใหม่ๆ แก่หัวใจของคนที่คิดว่าตนล้มเหลว เมื่อเราตระหนักว่าชีวิตเป็นหน้าที่การต่อสู้ที่เป็นสุข และในขณะเดียวกัน คือความฝันที่ผ่านไป เมื่อเราปลาบปลื้มสุขใจที่ได้ทำให้ผู้อื่นมีความสุขด้วยการให้ความเมตตาและศานติ ชีวิตของเราได้ประสบกับความสำเร็จในสายพระเนตรของพระเจ้า

    ความอุดม กับ ความมั่งคั่ง

    ผู้แสวงหาความมั่งคั่งเฉพาะเพื่อตนเอง สุดท้ายจะกลายเป็นคนยากไร้ หรือทุกข์ทรมานเพราะสภาพจิตที่ขาดความกลมกลืน แต่ผู้ที่เห็นโลกทั้งโลกเป็นบ้านของตน เอาใจใส่และทำงานเพื่อความมั่งคั่งของกลุ่ม หรือของโลก...จะได้พบกับความมั่งคั่งที่ตนสมควรได้รับ นี่คือความแน่นอนและเป็นกฎเร้นลับ

    flower

    ทุกวัน ทำดีเพื่อช่วยเหลิอผู้อื่น แม้เพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ถ้าท่านต้องการที่จะรักพระเจ้าท่านต้องรักผู้คน เพราะคนทั้งหลายเป็นบุตรของพระเจ้า ท่านอาจช่วยด้วยการให้สิ่งของแก่ผู้ที่ขาดแคลน และช่วยด้านจิตใจด้วยการปลอบโยนผู้ที่โศกเศร้า ให้กำลังใจผู้ที่หวาดกลัว ให้ความเป็นมิตรหนุนใจผู้อ่อนแอ ท่านได้หว่านเมล็ดพันธุ์ความดีด้วยเหมือนกันเมื่อท่านทำให้ผู้อื่นหันมาสนใจพระเจ้า ปลูกฝังให้พวกเขารักพระเจ้ายิ่งๆ ขึ้นไป มีความเชื่อลึกซึ้งในพระองค์ เมื่อท่านจากโลกนี้ไป ทรัพย์สมบัติจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง แต่ทุกความดีที่ท่านทำจะติดตัวท่านไป คนร่ำรวยที่ตระหนี่ละโมบโลภมาก และคนเห็นแก่ตัวที่ไม่เคยช่วยผู้อื่น จะไม่พบทรัพย์ในโลกหน้า แต่ผู้ที่ให้และแบ่งปันไม่ว่ามากหรือน้อย จะพบความมั่งคั่ง นี่เป็นกฎของพระเจ้า

    flower

    จงนึกถึงทิพยอุดมดุจสายฝนมหึมาอันชุ่มฉ่ำทรงพลัง การใช้ภาชนะที่ท่านถืออยู่ในมือจะรองรับสิ่งนี้ไว้ ถ้าท่านรับไว้ด้วยกระป๋องเล็กๆ ท่านก็จะได้แค่นั้น หากท่านชูอ่างรับ น้ำก็จะเต็มอ่าง แล้วท่านชูภาชนะใดไว้รองรับทิพยอุดมแห่งพระเจ้าล่ะ? บางทีภาชนะของท่านอาจมีรอยรั่ว ถ้าอย่างนั้นก็จงซ่อมแซม ด้วยการขจัดความกลัว ความเกลียด ความสงสัย ความอิจฉาริษยา แล้วชำระล้างด้วยน้ำสะอาดแห่งศานติ ความสงบ ความภักดีและความรัก ทิพยอุดมเป็นไปตามกฎการรับใช้และความมีน้ำใจ เมื่อให้ ท่านจะได้รับ จงให้สิ่งดีที่สุดที่ท่านมีแก่โลก และสิ่งดีที่สุดจะกลับคืนมาสู่ท่าน

    คำย้ำเตือนเพื่อความสำเร็จ

    ข้าพเจ้ามุ่งมั่นศรัทธาต่ออำนาจความดีที่สถิตทั่ว ว่าจะให้สิ่งที่จำเป็นแก่ข้าพเจ้ายามที่ข้าพเจ้าต้องการ

    flower

    ในตัวข้าพเจ้ามีอำนาจรังสรรค์อันไพศาล ข้าพเจ้าจะไม่ไปสู่หลุมฝังศพโดยไม่สร้างความสำเร็จบางอย่าง ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ผู้มีพระเจ้าอยู่ในตน เป็นสิ่งสร้างที่มีเหตุผล ข้าพเจ้าเป็นอำนาจแห่งบรมวิญญาณ เป็นต้นธารพลวัตแห่งวิญญาณของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าจะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในโลกธุรกิจ ในโลกความคิด ในโลกแห่งปัญญา ข้าพเจ้ากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน ข้าพเจ้าสามารถสร้างทุกสิ่งได้ตามปรารถนา ดุจเดียวกับพระบิดาผู้ทรงสร้าง

    คำย้ำเตือนเพื่อทิพยอุดม

    ข้าแต่พระบิดา ข้าพเจ้าปรารถนาความมั่งคั่ง สุขภาพ และปัญญาอย่างไม่อาจประมาณ มิใช่จากฝ่ายโลกแต่จากพระหัตถ์อันทรงพลัง ทรงความสมบูรณ์ ทรงครอบครองทุกสิ่งแห่งพระองค์

    ข้าพเจ้าจะไม่เป็นขอทาน ขอเพียงความมั่งคั่ง สุขภาพ และความรู้ฝ่ายโลก ข้าพเจ้าเป็นบุตรของพระองค์ ข้าพเจ้าจึงขอได้อย่างไม่จำกัด ขอความมั่งคั่งอย่างสุดประมาณในฐานะบุตรแห่งพระองค์

    flower

    ข้าแต่พระบิดา ข้าพเจ้าขออธิษฐานว่า: ข้าพเจ้าไม่สนใจสมบัติพัสถาน ขอได้โปรดประทานอำนาจที่จะหาสิ่งจำเป็นใดๆ ได้ด้วยเจตจำนงสำหรับในชีวิตประจำวันของข้าพเจ้าด้วยเทอญ

    ศึกษาเพิ่มเติม: