Back to Schedule
Donate

    บทคัดย่อจากข้อเขียนของปรมหังสา โยคานันทะ

    แม้คนทั่วไปมองความตายด้วยความหวาดกลัวและความเศร้าโศก แต่ผู้ไปก่อนแล้วจะรู้ว่าความตายเป็นประสบการณ์ของศานติและอิสรภาพน่าอัศจรรย์

    flower

    พอตายท่านลืมข้อจำกัดทั้งหมดของร่างกาย ตระหนักว่าท่านเป็นอิสระ สามสี่วินาทีแรกอาจจะกลัว—กลัวสิ่งที่ไม่รู้ สิ่งที่จิตสำนึกไม่คุ้นเคย แต่หลังจากนั้นจะพบกับการตระหนักรู้อันยิ่งใหญ่: วิญญาณรู้สึกเป็นสุขเบาสบายเมื่อได้เป็นอิสระ ท่านจะรู้ว่าท่านยังอยู่แม้แยกจากร่างกายที่ไม่อมตะ

    flower

    เราทุกคนต้องตายวันใดวันหนึ่ง จึงไม่มีประโยชน์ที่จะกลัวความตาย ท่านไม่ได้ทุกข์และไม่กลัวว่าจะสูญเสียจิตสำนึกตอนร่างกายของท่านนอนหลับ ท่านยอมรับการหลับว่าเป็นเวลาอิสระที่ท่านรอคอย ความตายก็เช่นกัน เป็นภาวะพัก ได้รับบำนาญชีวิต ไม่มีอะไรต้องกลัวเลย จงหัวเราะรับความตาย ความตายเป็นเพียงประสบการณ์ที่ท่านต้องเรียนรู้บทเรียนสำคัญนี้: ว่าท่านนั้นไม่อาจตายได้

    flower

    อาตมันแท้จริงของเรา หรือวิญญาณ เป็นอมตะ เราอาจหลับไปหน่อยหนึ่งตอนเปลี่ยนสภาพที่เรียกว่าความตาย แต่เราไม่ถูกทำลาย เรายังดำรง ดำรงนิรันดร์ คลื่นมาสู่ฝั่งแล้วกลับสู่ทะเล มันไม่ได้สูญหายไป แต่กลายเป็นหนึ่งเดียวกับมหาสมุทร หรือกลับไปเป็นคลื่นลูกใหม่ ร่างกายนี้มาแล้วสูญสลายไป แต่แก่นสารของวิญญาณไม่เคยหยุดการดำรง สิ่งใดๆ ไม่อาจกำจัดจิตนิรันดร์นี้ได้

    flower

    แม้สสารหรือคลื่นพลังงานก็ไม่อาจถูกทำลาย ดังที่วิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้ว วิญญาณหรือแก่นสารวิญญาณมนุษย์ก็ไม่อาจถูกทำลายเช่นกัน สสารเปลี่ยนได้ วิญญาณเข้าสู่การเปลี่ยนประสบการณ์ การเปลี่ยนอย่างถึงรากถึงโคนคือความตาย แต่นั่นก็แค่การเปลี่ยนรูป ไม่ได้เปลี่ยนหรือทำลายแก่นสารของวิญญาณ

    flower

    ร่างกายนี้เป็นเพียงอาภรณ์ ในชีวิตท่านเปลี่ยนเสื้อผ้ากี่ครั้ง เมื่อเป็นอย่างนี้ก็อย่าได้พูดว่าท่านเปลี่ยนไป เพราะทำนองเดียวกันเมื่อท่านละจากอาภรณ์ร่างกายตอนตาย ท่านก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ท่านยังเหมือนเดิม เป็นวิญญาณอมตะ เป็นบุตรของพระเจ้า

    flower

    คำว่า “ตาย” เป็นการเรียกชื่อผิด เพราะไม่มีการตาย เมื่อท่านเหน็ดเหนื่อยต่อชีวิต ท่านก็แค่ถอดเสื้อคลุมเนื้อหนังออกและกลับไปสู่โลกทิพย์

    flower

    ภควัทคีตากล่าวถึงความตายไว้อย่างไพเราะงดงาม ให้ความสบายใจ ในความเป็นอมตะของวิญญาณ:

    เมื่อวิญญาณไม่เคยเกิด: วิญญาณจะไม่มีวันตาย

    เมื่อไม่มีกาลเวลา: การสิ้นสุดหรือการเริ่มต้นเป็นเพียงความฝัน!

    วิญญาณไร้เกิด ไร้ตาย ไร้การเปลี่ยนแปลง นิจนิรันดร์

    ความตายไม่ทำให้วิญญาณกระทบกระเทือน แม้เสมือนว่าที่อยู่ของวิญญาณตาย

    flower

    ความตายไม่ใช่การสิ้นสุด: เป็นการปลดปล่อยชั่วคราว ตามที่กรรม กฎความยุติธรรมเห็นว่าร่างกายปัจจุบันและสภาพแวดล้อมของท่านได้ไปถึงเป้าหมายแล้ว หรือเมื่อท่านเหนื่อยล้า หมดกำลังจะแบกรับความทุกข์ทางกายได้อีกแล้ว หรับผู้ทุกข์ทรมาน ความตายทำให้เขาพ้นจากความทุกข์เจ็บปวดทางเนื้อหนัง ได้ตื่นอยู่ในความสงบสันติ สำหรับผู้ชรา นี่คือบำนาญหลังจากชีวิตต่อสู้ดิ้นรนมาหลายปี สำหรับทุกคน ความตายคือการพักที่น่ายินดี

    flower

    เมื่อท่านสะท้อนกลับจะเห็นว่าโลกนี้เต็มไปด้วยความตาย ร่างกายของท่านก็เช่นกัน จะต้องถูกสละ แผนการของพระเจ้าเสมือนว่าโหดร้าย ท่านมองไม่ออกเลยว่าพระองค์ทรงเมตตาตรงไหน!

    แต่เมื่อท่านมองกระบวนการตายด้วยสายตาแห่งปัญญา ท่านจะเห็นว่านั่นเป็นเพียงดำริของพระเจ้าผ่านฝันร้ายของการเปลี่ยนแปลงเพื่อกลับสู่อิสรภาพในพระองค์อีกครั้ง นักบุญหรือคนบาปก็เช่นกัน ยามตายทุกคนได้รับอิสรภาพอยู่ในโลกฝันทิพย์แห่งพระเจ้า—แดนที่วิญญาณไปเมื่อตาย—ด้วยกันทั้งนั้น แต่จะอิสระมากน้อยกว่ากันขึ้นอยู่กับคุณงามความดีที่ได้ทำ พวกเขาเป็นอิสระอย่างที่ไม่เคยรู้ในช่วงมีชีวิตอยู่ในโลก

    ฉะนั้น อย่าสงสาร คนที่ผ่านมายาความตาย เพราะไม่ช้าเขาจะเป็นอิสระ เมื่อพ้นจากมายานั้นแล้ว เขาจะเห็นว่าความตายไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย เขาตระหนักว่าตอนมีชีวิตอยู่เป็นเพียงความฝัน เขาจึงดีใจที่ตอนนี้ เผาไฟไม่ไหม้ ตกน้ำไม่จม เขาเป็นอิสระและปลอดภัย

    flower

    จิตสำนึกของผู้ใกล้ตายจะโปร่งเบาหลุดจากความหนักของร่างกาย ไม่จำเป็นต้องหายใจ ไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป วิญญาณจะรู้สึกราวกับว่าได้ลอยผ่านอุโมงค์สงบยิ่ง สลัวๆ แล้ววิญญาณหลุดสู่สภาวะหลับไปอย่างลืมตัว หลับลึกและสบายกว่าที่เคยหลับลึกที่สุดตอนยังมีชีวิตเป็นล้านเท่า...

    ผู้คนมากมายมีประสบการณ์หลังการตายแตกต่างกันไปตามวิถีที่เขาดำเนินชีวิตตอนอยู่ในโลก เช่นเดียวกับที่การหลับลึกยาวนานไม่เท่ากัน ประสบการณ์หลังการตายก็แตกต่างกันไป คนดีที่ทำงานหนักในโรงงานชีวิตจะได้พักหลับลึกไม่รู้ตัวอยู่ชั่วครู่ แล้วไปตื่นอีกครั้งในชีวิตของแดนทิพย์ “พระนิเวศของพระบิดาเรามีที่อยู่มากมาย”

    flower

    อาภรณ์ของวิญญาณในแดนทิพย์คือแสงเรืองรอง พวกเขาไม่มีเลือดเนื้อและกระดูก ไม่มีร่างที่จะชนกับของแข็งแล้วแตกสลายได้ ดังนั้นในแดนทิพย์จึงไม่มีสงครามระหว่างร่างกายกับของแข็ง มหาสมุทร แสง และโรคภัย ไม่มีอุบัติเหตุ เพราะทุกสิ่งอยู่อย่างช่วยเหลือกันและกัน ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน การสั่นสะเทือนทุกรูปแบบกลมกลืนกัน พลังทั้งหลายอยู่ร่วมกันเอื้อเฟื้อกันอย่างมีสติด้วยสันติ วิญญาณ รังสีที่พวกวิญญาณสัญจร กับแสงสีส้มที่พวกเขาดื่มและกิน ล้วนเป็นแสงมีชีวิต วิญญาณต่างรู้จักกันและกัน ร่วมมือกัน พวกเขาไม่ได้หายใจเอาออกซิเจน แต่หายใจเอาความปีติแห่งบรมวิญญาณ

    flower

    “เพื่อนๆ ในชาติก่อนๆ จำกันได้อย่างง่ายดายในโลกทิพย์” [ศรียุกเตศวรกล่าว] “ยินดีกับมิตรภาพอมตะ พวกเขาตระหนักถึงความรักที่ไม่เสื่อมสลาย ซึ่งมักจะเกิดความสงสัยในยามโศกเศร้าตอนจากกันเมื่อยังอยู่ในชีวิตมายา”

    flower

    ชีวิตหลังความตายยิ่งใหญ่นัก! ท่านไม่ต้องลากโครงกระดูกนี้ให้ยุ่งยากเดือนร้อนอีกแล้ว ท่านจะเป็นอิสระอยู่ในสวรรค์ทิพย์ ไร้ข้อจำกัดทางกายที่เป็นอุปสรรค

    flower

    เมื่อคนที่เรารักตายจากไป แทนที่จะเศร้าเสียใจอย่างไร้เหตุผล จงตระหนักว่าเขาไปสู่แดนที่เหนือกว่าตามพระประสงค์ของพระเจ้า และพระเจ้าทรงรู้สิ่งดีที่สุดสำหรับเขา จงยินดีที่เขาได้เป็นอิสระ สวดอธิษฐานให้ความรักและความปรารถนาดีของท่านเป็นกำลังใจให้เขาบนหนทางที่จะก้าวต่อไป เจตคติเช่นนี้ช่วยได้มากกว่า แน่นอน เราคงไม่ใช่มนุษย์ถ้าเราไม่คิดถึงคนที่เรารัก แต่การรู้สึกเหงาหงอยเพราะเขา จะฉุดพวกเขาไว้กับโลก เราคงไม่เห็นแก่ตัวอยากทำอย่างนั้น การโศกเศร้าอย่างเกินเลยจะขัดขวางวิญญาณที่จากไป ไม่ให้ก้าวไกลสู่อิสรภาพและศานติประเสริฐ

    flower

    การส่งความคิดความระลึกถึงไปให้คนที่ท่านรักผู้จากไป ให้นั่งเงียบๆ ในห้องและทำสมาธิระลึกถึงพระเจ้า เมื่อรู้สึกถึงศานติแห่งพระองค์ในตน จดจ่อจิตลึกล้ำที่ศูนย์พระคริสต์ ศูนย์เจตจำนงตรงหว่างคิ้ว และส่งคลื่นความรักไปถึงคนที่ท่านรักผู้จากไป

    สร้างมโนภาพที่ศูนย์พระคริสต์ถึงบุคคลที่ท่านต้องการติดต่อด้วย ส่งพลังสั่นสะเทือนแห่งความรัก ความเข้มแข็งและความกล้าหาญไปถึงคนที่ท่านรัก

    ถ้าท่านทำอย่างนี้เสมอๆ และท่านเอาใจใส่คนที่ท่านรักอย่างไม่หย่อนคลาย วิญญาณนั้นจะได้รับพลังนี้อย่างแน่นอน กระแสจิตเช่นนี้จะทำให้คนที่ท่านรักรู้สึกดี รู้ว่ามีคนรัก พวกเขาไม่ลืมท่านเหมือนกับที่ท่านไม่ลืมเขา

    flower

    ส่งความรักและความปรารถนาดีไปถึงคนที่ท่านรักบ่อยๆ เท่าที่ท่านอยากทำ แต่อย่างน้อยปีละครั้ง—อาจในโอกาสการเฉลิมฉลองพิเศษ บอกเขาในใจว่า “สักวันหนึ่งเราจะพบกันอีก จะพัฒนารักแห่งพระเจ้าและความเป็นกัลยาณมิตรกันต่อไป” ถ้าท่านส่งความรักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ตอนนี้ สักวันหนึ่งท่านจะได้พบกับพวกเขาอีกแน่นอน ท่านจะรู้ว่า ชีวิตนี้ไม่ได้สิ้นสุดลง เป็นเพียงโซ่ข้อหนึ่งในห่วงโซ่มิตรภาพนิรันดร์กับคนที่ท่านรัก

    คำย้ำเตือน

    มหาสมุทรแห่งบรมวิญญาณกลายเป็นฟองคลื่นวิญญาณน้อยๆ ของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะล่องลอยในการเกิด หรือหายไปในการตาย ในมหาสมุทรจักรวาลแห่งการรับรู้ ฟองคลื่นชีวิตของข้าพเจ้าไม่สามารถตายได้ ข้าพเจ้าเป็นจิตสำนึกที่ทำลายไม่ได้ ได้รับการปกป้องอยู่ในอ้อมอกอมตะแห่งบรมวิญญาณ